Gen Alpha ทำยังไง เมื่อปู่ย่าตายาย Gen X,B บอกแบบนั้น แต่พ่อแม่ Gen Y เลี้ยงแบบนี้! ปรับไงให้ลงตัว

Key Takeaways:

• ปรับสมดุลการเลี้ยงลูกข้ามเจเนอเรชัน: พ่อแม่ Gen Y และปู่ย่าตายาย Gen X หรือ Gen B มีแนวทางเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน โดยปู่ย่าตายายมักยึดติดกับความเชื่อและวิถีดั้งเดิม ขณะที่พ่อแม่ใช้ข้อมูลสมัยใหม่และเทคโนโลยี ควรหาจุดร่วมที่เหมาะสมเพื่อให้เด็ก Gen Alpha เติบโตอย่างสมวัยและมีความสุข

• หลีกเลี่ยงปัญหาจาก Generation Gap: ปู่ย่าตายายมักให้ท้ายเด็กมากเกินไป ขณะที่พ่อแม่อาจเข้มงวดเกินไป ส่งผลต่อพฤติกรรมและพัฒนาการของลูก ควรสื่อสารและสร้างความเข้าใจร่วมกันเพื่อเลี้ยงลูกให้เหมาะกับยุคสมัย สร้างสัมพันธ์ที่ดีร่วมกัน เช่น การช่วยสอนลูกอาบน้ำ

Gen Alpha คืออะไร เป็นเจนเนอเรชันที่ฉลาดที่สุดจริงหรือ?

Gen Alpha คือ เด็กที่เกิดในระหว่างปี 2010 จนถึงปัจจุบัน จัดว่าเป็นประชากรที่มีอายุประมาณ 6-12 ปี เป็นเจนเนอเรชันที่เกิดและเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีในระบบดิจิทัลโดยสมบูรณ์ และกำลังจะเติบโตกลายมาเป็นผู้ที่มีกำลังซื้อใหญ่ที่สุดของสังคม

เด็กยุค Gen Alpha เติบโตขึ้นมาท่ามกลางการพัฒนาของระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่แรกเกิด ทำให้พวกเขามีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีมากกว่าพ่อแม่ชาวเจน Y และปู่ย่าตายายเจน X ส่งผลให้การเรียนรู้และพัฒนาองค์ความรู้เป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายดายขึ้น

นอกจากนี้ เด็กใน Gen Alpha ยังสามารถเปิดรับและสัมผัสกับความแตกต่างและความหลากหลายของสังคมได้มากกว่าที่เคย เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดด้านการเข้าถึงข้อมูล อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะยอมรับและปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้ดีกว่าคนรุ่นก่อน ทำให้ขีดความสามารถของเด็กในเจนเนอเรชันนี้จะเป็นหนึ่งในเจนเนอเรชันที่ฉลาดที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ 

Generation Gap ในครอบครัวต่างกัน วิธีเลี้ยงลูกก็ต่างกัน

การจะเลี้ยงเด็ก Gen Alpha ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนในครอบครัวช่วยกันอบรม ปลูกฝัง เพื่อสร้างเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัยและยุคสมัย แต่...เมื่อสมาชิกในครอบครัวมีประสบการณ์ใช้ชีวิตกันคนละยุคสมัย จึงก่อให้เกิด Generation Gap หรือความแตกต่างระหว่างวัย ซึ่งทำให้วิธีการเลี้ยงลูกของเจนย่ายาย กันพ่อแม่เจนวายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เลี้ยง Gen Alphaแบบย่ายาย Gen X,B วิถีดั้งเดิม ใกล้ชิดธรรมชาติ

การเลี้ยงลูกในอดีตหรือที่เรียกว่าวิถีของคุณย่า คุณยาย มักมีความเรียบง่ายและพึ่งพาธรรมชาติมากกว่าปัจจุบัน สิ่งของเครื่องใช้ไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลี้ยงดู แต่จะเน้นเลี้ยงลูกให้มีความใกล้ชิดกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากกว่า และรูปแบบวิธีเลี้ยงลูกก็จะยึดโยงไว้กับหลักความเชื่อและธรรมเนียมประเพณีมากกว่าความสมเหตุสมผล หรือความปลอดภัย บ่อยครั้งอาจมีการดูแลที่มากเกินจำเป็น หรือยึดติดกับวิธีการดั้งเดิมโดยไม่พิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

ในอดีตการเข้าถึงข้อมูลการเลี้ยงลูกนั้นไม่ค่อยแพร่พลาย รูปแบบการเลี้ยงลูกของคุณย่า คุณยาย จึงปฏิบัติสืบต่อกันมาตามคำบอกเล่าของพ่อแม่ ตามประสบการณ์ของตนเอง ตามความเชื่อ และความเข้าใจที่ตนเองเข้าใจว่าวิธีเลี้ยงลูกแบบนี้ถูกต้อง ซึ่งบางเรื่องอาจเป็นกุศโลบายที่ส่งผลดีต่อเด็กจริง ๆ แต่บางอย่างก็เป็นผลเสียที่อันตรายต่อสุขภาพของลูก เช่น การให้ทารกกินกล้วยบดหรือกินน้ำก่อนอายุ 6 เดือน ใช้สมุนไพรหรือปัสสาวะกวาดคอทารก ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะทำกันเองตามความเชื่อแบบผิด ๆ ที่ส่งต่อกันมา และเสี่ยงเป็นอันตรายต่อสุขภาพของลูกน้อย Gen Alpha

เลี้ยง Gen Alpha แบบพ่อแม่ Gen Y เข้าถึงเทคโนโลยี ห่างไกลธรรมชาติ

การเลี้ยงลูก Gen Alpha ของคุณพ่อคุณแม่ Gen Y ในปัจจุบันนี้ มีความแตกต่างจากอดีตมากทีเดียว สมัยนี้การเลี้ยงลูกมักจะผูกติดกับวัตถุมากกว่าในอดีต ตั้งแต่ของเล่น ของกิน ของใช้ต่าง ๆ มีออปชั่นมากมายให้เลือกสรร การเลี้ยงเด็กในปัจจุบันจึงห่างเหินกับธรรมชาติและสภาพแวดล้อม ซึ่งก็ทำให้เด็กเข้าถึงข้อมูลและสามารถพัฒนาตนเองได้เร็วและไว แต่ในขณะเดียวกันก็ดึงให้เด็ก ๆ ออกห่างจากโลกของความเป็นจริง มีปัญหาในการเข้าสังคมเพราะขาดทักษะการสื่อสารที่ดี เป็นปัญหาแห่งวัยที่มีผลมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่พึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม เพราะนี่คือยุคสมัยที่มีเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตมากขึ้น ก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่เข้าถึงข้อมูลการเลี้ยงลูกที่หลากหลายและถูกต้องตามหลักการแพทย์ เป็นการเลี้ยงลูกที่มีความปลอดภัยมากขึ้น ทำให้การเลี้ยงลูกเริ่มมีความสมเหตุสมผล มีการดูแลลูกที่เหมาะสมกับพัฒนาการ ไม่ผูกติดกับความเชื่อหรือธรรมเนียมแบบผิด ๆ อีกต่อไป

ถึงแม้ว่าแนวทางการเลี้ยงลูกจะแตกต่างกันไปตาม Generation Gap แต่สิ่งที่คุณย่าคุณยายเจนเก๋า และคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ การมอบความรัก ความใส่ใจ และการดูแลลูก Gen Alpha อย่างเหมาะสมเพื่อให้เติบโตลูกน้อยสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแรง มีความสุข และมีพัฒนาการที่สมวัย 

เลี้ยง Gen Alphaแบบย่ายาย Gen X,B วิถีดั้งเดิม ใกล้ชิดธรรมชาติ

การเลี้ยงลูกในอดีตหรือที่เรียกว่าวิถีของคุณย่า คุณยาย มักมีความเรียบง่ายและพึ่งพาธรรมชาติมากกว่าปัจจุบัน สิ่งของเครื่องใช้ไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลี้ยงดู แต่จะเน้นเลี้ยงลูกให้มีความใกล้ชิดกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากกว่า และรูปแบบวิธีเลี้ยงลูกก็จะยึดโยงไว้กับหลักความเชื่อและธรรมเนียมประเพณีมากกว่าความสมเหตุสมผล หรือความปลอดภัย บ่อยครั้งอาจมีการดูแลที่มากเกินจำเป็น หรือยึดติดกับวิธีการดั้งเดิมโดยไม่พิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

ในอดีตการเข้าถึงข้อมูลการเลี้ยงลูกนั้นไม่ค่อยแพร่พลาย รูปแบบการเลี้ยงลูกของคุณย่า คุณยาย จึงปฏิบัติสืบต่อกันมาตามคำบอกเล่าของพ่อแม่ ตามประสบการณ์ของตนเอง ตามความเชื่อ และความเข้าใจที่ตนเองเข้าใจว่าวิธีเลี้ยงลูกแบบนี้ถูกต้อง ซึ่งบางเรื่องอาจเป็นกุศโลบายที่ส่งผลดีต่อเด็กจริง ๆ แต่บางอย่างก็เป็นผลเสียที่อันตรายต่อสุขภาพของลูก เช่น การให้ทารกกินกล้วยบดหรือกินน้ำก่อนอายุ 6 เดือน ใช้สมุนไพรหรือปัสสาวะกวาดคอทารก ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะทำกันเองตามความเชื่อแบบผิด ๆ ที่ส่งต่อกันมา และเสี่ยงเป็นอันตรายต่อสุขภาพของลูกน้อย Gen Alpha

Generation Gap ต่างกัน ส่งผลเสียต่อการเลี้ยงลูก Gen Alpha

หนึ่งในปัญหาครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่หลายครอบครัวจะต้องประสบพบเจอกันกับตัวเองก็คือ รูปแบบการเลี้ยงเด็ก Gen Alpha ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัวใหญ่ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ปัญหา Generation Gap ยิ่งเด่นชัดมากขึ้น เพราะยากที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความแตกต่างทั้งความคิด การใช้ชีวิต และการเลี้ยงเด็ก โดยปัญหาที่พบเจอหลัก ๆ ได้แก่

1. คุณตาคุณยายชอบให้ท้ายลูก

ผู้ใหญ่มักจะเอ็นดูเด็กเล็กมากเกินไป ปกป้อง ให้ท้าย จนบ่อยครั้งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เด็กเสียนิสัย เพราะทำผิดแค่ไหน ก็มีคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คอยให้ท้ายเสมอ 

การกระทำเช่นนี้แม้จะมาจากความหวังดี แต่ก็อาจส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็ก Gen Alpha ในระยะยาว เมื่อเด็กทำผิดแล้วได้รับการปกป้องเสมอ มีคนคอยให้ท้ายอยู่ตลอดเวลา เด็ก ๆ ก็อาจจะขาดการตระหนักถึงผลของการกระทำของตนเอง และไม่รู้สึกถึงความจำเป็นในการเชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่

2. คุณพ่อคุณแม่เข้มงวดเกินไป

การเข้าถึงข้อมูลการเลี้ยงลูกที่ถูกต้องและเหมาะสม เป็นสิ่งที่ดีก็จริง แต่บางครั้งคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ก็ขาดความยืดหยุ่น จัดตารางการใช้ชีวิตของลูกอย่างเข้มงวดมากจนเกินไป ซึ่งแม้จะช่วยปลูกฝังเรื่องระเบียบวินัยให้ลูกได้ แต่หากขาดความยืดหยุ่น ก็จะทำให้เด็ก Gen Alpha มีความกดดันกับตนเอง ขาดอิสระทางความคิด ไม่กล้าตัดสินใจทำอะไร เพราะกลัวจะผิดแผนและถูกคุณพ่อคุณแม่ตำหนิ สิ่งเหล่านี้อาจกลายเป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการทางอารมณ์และการเรียนรู้ของเด็ก

3. พ่อแม่ถูกตำหนิเรื่องการเลี้ยงลูกและการดูแลตนเอง

การเลี้ยงลูก Gen Alpha เป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และเมื่อต้องเผชิญกับความคิดเห็นที่แตกต่างภายในครอบครัว ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางครอบครัวอาจถูกตำหนิวิธีเลี้ยงลูกเป็นประจำ เช่น ทำไมถึงมีน้ำนมน้อย หรือถูกตำหนิที่ให้ลูกกินแต่นมแม่อย่างเดียว 

ความคาดหวังจากคุณย่า คุณยายที่มากเกินไป อาจสร้างความกดดันให้คุณแม่รู้สึกว่าตนเองทำได้ไม่ดีพอ และหากถูกตำหนิซ้ำ ๆ ก็อาจส่งผลให้คุณแม่เกิดความเครียด ความรู้สึกผิด และนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้ ซึ่งเมื่อมีความเครียดรุนแรงเกิดขึ้นจนสะสมแบบเรื้อรัง ก็จะส่งผลต่อการเลี้ยงดูลูก Gen Alpha ได้ 

4. รูปแบบการเลี้ยงลูกที่ไม่สมดุล

การขาดความสมดุลในการเลี้ยงเด็ก ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อครอบครัวและมีผลเสียต่อเด็กไปพร้อม ๆ กัน กล่าวคือ บางครั้งพ่อกับแม่ก็เข้มงวดมากเกินไป ลูกจะต้องกินข้าวเวลานี้ ห้ามเล่นตอนนี้ เวลานี้ต้องทำสิ่งนี้ ตีกรอบทุกอย่าง ทำให้เด็กต้องอยู่ในกรอบที่แน่นหนา ขาดอิสระในการเรียนรู้และพัฒนาด้วยตนเอง

ขณะเดียวกันคุณตาคุณยายก็ยืดหยุ่นมากเกินจำเป็น หลานอยากกินอะไรก็ได้กิน อยากเล่นหน้าจอก่อนวัยอันควรก็ทำได้ เล่นเกมนานเกินกำหนดก็ทำได้ เป็นการสร้างความสับสนให้กับเด็ก อาจคิดว่าสิ่งที่พ่อแม่ห้าม เป็นเรื่องที่ทำได้ และทำให้เด็กไม่สามารถปรับตัวกับกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันในแต่ละสถานการณ์ หรือเกิดความเครียดจากการที่ต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับที่ไม่สอดคล้องกัน

เลี้ยงลูก Gen Alpha เลี้ยงอย่างไรเมื่อวัยเก๋ากับนิวเจนเห็นไม่ตรงกัน

แต่ละคนมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่ตรงกันคือความรักและความหวังดีกับลูกน้อย ดังนั้น วิธีการรับมือที่ดีที่สุดคือการเปิดใจคุยกันอย่างตรงไปตรงมาของพ่อแม่และปู่ย่าตายาย เพื่อหาสมดุลในการเลี้ยงลูก Gen Alpha ให้ตรงกัน ดังนี้

1. สื่อสารกันด้วยข้อเท็จจริงจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ

คุณพ่อคุณแม่หาโอกาสพูดคุยกันกับคุณตาคุณยาย เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันต่อแนวทางการเลี้ยงลูก ว่าสิ่งใดทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้ สิ่งไหนไม่เหมาะสม และสิ่งไหนไม่ควรทำ มีการอัปเดตข้อมูลการเลี้ยงลูก Gen Alpha ใหม่ ๆ ที่ทันสมัย 

ใช้ข้อมูลการอ้างอิงจากคำแนะนำของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ โดยการเปิดวิดีโอ หรือข่าวสารต่าง ๆ เพื่อให้คุณตาคุณยายได้รับข้อมูลใหม่ ๆ ที่ถูกต้องและเหมาะสม สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณตาคุณยายเปิดใจกับแนวทางการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น

2. ให้ความสำคัญกับบทบาทของปู่ย่าตายาย

เด็ก Gen Alpha ที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมของครอบครัวที่อบอุ่น ย่อมดีกว่าการให้เด็กเติบโตมาในครอบครัวที่ทะเลาะเบาะแว้งและตำหนิกันตลอดเวลา คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องกีดกันคุณปู่คุณย่าออกไป แต่สามารถนำท่านมาช่วยดูแลลูกภายใต้ข้อกำหนดกฎเกณฑ์ที่เข้าใจตรงกันอย่างยืดหยุ่นและเหมาะสม การให้เด็ก ๆ ได้ใช้เวลาอยู่กับคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ก็จะช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ต่างวัย มีการแลกเปลี่ยนเรื่องราวซึ่งกันและกัน มอบคำแนะนำให้แก่กัน ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวที่อบอุ่น เข้าใจซึ่งกันและกัน

3. คุณตาคุณยายต้องเปิดใจ

คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย ควรจะต้องปล่อยวางและเปิดใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ แนวทางการเลี้ยงหลาน Gen Alpha ที่เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นด้วย เพราะสิ่งที่คุณตาคุณยายเคยทำมา อาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป และบางครั้งอาจส่งผลเสียต่อหลาน ๆ ได้อีกด้วย การเลี้ยงลูกเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ คุณตาคุณยายเป็นแนวหลังคอยช่วยสนับสนุนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์อย่างเหมาะสม จะเป็นประโยชน์ต่อคุณพ่อคุณแม่และหลานมากกว่า

วิธีสร้างสัมพันธ์ที่ดีในการเลี้ยงลูก Gen Alpha แม้ต่างวัย แต่หัวใจเดียวกัน

• 
  

สิ่งสำคัญนอกเหนือไปจากการพูดคุยและทำความเข้าใจซึ่งกันและกันแล้ว การทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น ก็จะยิ่งช่วยทำให้สัมพันธภาพในครอบครัวอบอุ่น แน่นแฟ้น และใกล้ชิดกันมากขึ้น ผ่านกิจกรรมง่าย ๆ ที่ทำให้ทั้งครอบครัว ดังนี้

• คุณตาคุณยายสอนหลาน Gen Alpha ทำอาหารแบบง่าย ๆ ในเทศกาลสำคัญ หรือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
• ไปเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตากัน สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย เด็ก ๆ สนุก คุณตาคุณยายก็สุขใจ
• แลกเปลี่ยนกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ความสำคัญกับทุกคนอย่างทั่วถึง สัปดาห์นี้ไปวัดเอาใจคุณตาคุณยาย สัปดาห์หน้าไปสวนสนุกเอาใจหลาน ๆ ปลายปีไปทะเลเอาใจทุกเจน
• เวลาลูก Gen Alpha มีคำถาม ข้อสงสัย นอกจากคุณพ่อคุณแม่จะให้คำตอบและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันแล้ว อย่าลืมแนะนำให้ลูกไปข้อคำแนะนำหรือประสบการณ์จากคุณปู่คุณย่า เพื่อให้เกิดการสื่อสารและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันมากขึ้น
• ให้คุณตาคุณยายช่วยสอนลูกอาบน้ำ อาบยังไงให้สนุกและผิวสะอาด ไม่เหลือสิ่งสกปรกตกค้าง เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อยไม่สบาย มีวิธีสระและนวดอย่างไรให้สบายหัว สบายตัว
• แนะนำให้คุณตาคุณยายใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและสระผมสำหรับเด็ก ที่มีสารสกัดออร์แกนิก ที่มีความอ่อนโยน มีค่า pH Balanced 5.5 เพื่อช่วยรักษาสมดุลผิวและเส้นผมของลูก ไม่ให้แห้งง่าย มีปราการผิวและผมที่แข็งแรง

แม้ Generation Gap อาจนำมาซึ่งความไม่เข้าใจกันและกัน แต่หากทุกคนในครอบครัวเปิดใจรับฟังกันอย่างจริงใจ พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา และเคารพซึ่งกันและกัน จะช่วยให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวเข็มแข็ง และที่สำคัญที่สุดคือลูกน้อย Gen Alpha จะได้เติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น ได้รับทั้งความรัก ความเข้าใจ และการเลี้ยงดูที่เหมาะสม ส่งเสริมให้มีทั้งสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตอย่างมั่นคงและมีความสุข

บทความโดย

อ. พญ. ลลิต ลีลาทิพย์กุล (หมอจอย)

เจ้าของเพจ คู่มือเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข (momjoychannel)

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ดูแลลูกน้อยให้เติบโตอย่างมีความสุข ด้วยตัวช่วยที่ทุกเจเนอเรชันวางใจ  ไม่ว่าคุณจะเป็นคุณตาคุณยาย Gen X,B หรือคุณพ่อคุณแม่ Gen Y สิ่งสำคัญที่สุดคือการมอบการดูแลที่อ่อนโยนและปลอดภัยให้กับลูกน้อย Gen Alpha ขอแนะนำ สบู่เหลวอาบสระนวดในขวดเดียว dmp Kids ให้ลูกอาบสนุก อ่อนโยนต่อผิวบอบบางของเด็ก และ Shampoo & Conditioner สูตรพรีไบโอติก ที่ช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มสวย ไม่ชี้ฟู ใช้แล้วสบายใจทั้งบ้าน อาบสนุกทุกวัย!

ติดตาม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือโปรโมชัน ได้ตามช่องทางติดต่อด้านล่าง

Reference : 

• https://ddc.moph.go.th/odpc5/

RELATED